การเลือกใช้ Film ชนิดต่างๆ
Film พลาสติกแต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน แล้วเราจะเลือกใช้ Film ตัวไหนกันดีหละ? ถ้าผู้ใช้แค่ต้องการใส่ของแค่ประเดี๋ยวประด๋าวเราก็คงไม่ต้องพิจารณาอะไรมาก ขอแค่ถุงพลาสติกนั้นไม่ฉีกขาดและรับน้ำหนังของสิ่งที่จะบรรจุลงไปได้นั่นก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเราต้องการใช้ซองพลาสติกด้วยวัตถุประสงค์อื่นหละ เช่น เพื่ออายุจัดเก็บสินค้าที่ยาวนานขึ้น เพื่อการพิมพ์ภาพและรายละเอียดด่างๆ เพื่อให้ข้อมูลสินค้าที่ตัวสินค้าเองและความสวยงาม หรือเพื่อการขนส่งที่ปลอดภัย ปัจจัยเหล่านี้จะมีผลต่อการเลือกฟิล์มพลาสติกที่จะนำมาใช้ผลิตเป็นซองบรรจุภัณฑ์ทันที
เพื่อเป็นการอธิบายให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่าย Easy Pack ของแบ่งการใช้งานง่ายๆ เป็น 3 ประเภท ดังนี้
1. Film สำหรับใช้พิมพ์ลวดลาย (Printing Layer)
2. Film สำหรับยืดอายุจัดเก็บสินค้า (Barrier Layer)
3. Film สำหรับขึ้นรูปซองชั้นซีล (Sealant Layer)
Film สำหรับใช้พิมพ์ลวดลาย (Printing Layer)
1. Polyethylene Terephthalate (PET) มีคุณลักษณะผิวเงางาม เรียบ มีความใส และทนทานต่อการฉีกขาดหรือการกดกระแทก รักษารูปทรงได้ดีในระดับอุณหภูมิต่างๆ ทนความร้อนสูง สามารถใช้กับไมโครเวฟได้ ทนต่อความชื้น ทนสารเคมี และตัวทำละลายได้หลากหลายประเภท ป้องกันการซึมผ่านของก๊าซได้ดี และมีคุณสมบัติในการถนอมและรักษากลิ่นของอาหารและรักษาความกรอบของขนมขบเคี้ยวได้ดีกว่า BOPP
2. Oriented Polypropylene (OPP) มีคุณลักษณะใส ผิวมันวาว เหนียว ทนต่อแรงดึง กันน้ำได้ดี
3. Polyamide (PA) หรือ NYLON มีคุณลักษณะแข็งแรงเหนียว ต้านทานแรงดึง และแรงฉีกขาดได้ดีทนต่อการกัดกร่อนและการเสียดสีไม่เสียรูปทรงง่ายเหมาะสำหรับงานรับแรงมากๆ ป้องกันการซึมผ่านของออกซิเจนและกลิ่นต่างๆได้ดี แต่ป้องกันการซึมผ่านของความชื้นได้น้อย และดูดซับความชื้นจากสิ่งแวดล้อมได้ ทนต่ออุณหภูมิร้อน-เย็น มีความเหนียวเป็นพิเศษ จึงสามารถนำมาผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์สุญญากาศ
Film สำหรับยืดอายุจัดเก็บสินค้า (Barrier Layer)
1. Aluminum Foil มีคุณสมบัติสำหรับการผลิตเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ดีที่สุดถ้าเทียบกับฟิล์มพลาสติกชนิดอื่นๆ แต่มีราคาแพง ซึ่งคุณสมบัติของอลูมีเนียมคือ การป้องกันก๊าซและน้ำ รวมถึงน้ำมัน และแสงได้อย่างดีเยี่ยม ส่งผลให้สามารถยืดอายุผลิตภัณฑ์ที่บรรจุอยู่ภายในได้ยาวนานกว่าฟิล์มชนิดอื่นๆ มีความมันวาวสูงกว่าฟิล์ม Metalized
2. Metalized Film เป็นการเพิ่มคุณสมบัติ Film โดยการนำ Film ที่มีคุณสมบัติตั้งต้นอย่าง PET หรือ CPP ไปผ่านกระบวนการไอระเหยสารโลหะ โดยส่วนมากสารโลหะดังกล่าวจะใช้เป็น Aluminum ระเหยลงบน Film ให้กลายเป็น Metalized Polyethylene Terephthalate (MPET) หรือ Metalized Cast Polypropylene (MCPP) จากที่มีคุณสมบัติทั่วไป ไปเป็น Film ที่มีความสามารถในการป้องกันก๊าซและน้ำ รวมถึงน้ำมัน และแสงได้ดีขึ้น ส่งผลให้สามารถยืดอายุผลิตภัณฑ์ที่บรรจุอยู่ภายในได้ยาวนานขึ้นแต่ก็ไม่เท่า Aluminum Foil
Film สำหรับขึ้นรูปซองชั้นซีล (Sealant Layer)
1. Polyethylene (PE) แต่ในที่นี้เราจะใช้เป็น Linear Low Density Polyethylene (LLDPE) ซึ่งเป็นชั้นในสุดที่สัมผัสกับอาหารโดยตรง มีความยืดหยุ่นดี ทนความร้อนได้ สามารถใช้กับกระบวนการปิดผนึกด้วยความร้อนได้ (Heat Sealing) สามารถใช้งานได้หลากหลายตั้งแต่การจัดเก็บในอุณหภูมิทั่วไปจนถึงเย็นจัด เนื่องจากตัว Film มีคุณสมบัติยืดหยุ่นตัวได้ดี มีความเหนียว และแข็งแรง ทำให้สามารถทนสภาวะเย็นจัดได้ดี ไม่กรอบแตก นิยมใช้กับสินค้าประเภทอาหารและยา อาหารเสริม อาหารแช่แข็ง ขนมขบเคี้ยว และอื่นๆ อีกมากมาย
2. Cast Polypropylene (CPP) มีคุณลักษณะใส ผิวมันวาว เหนียว ทนต่อแรงดึง กันน้ำได้ดี เป็นชั้นที่สัมผัสกับผลิตภัณฑ์โดยตรง สามารถใช้กับกระบวนการปิดผนึกด้วยความร้อนได้ (Heat Sealing) เป็นที่นิยมใช้กับสินค้าประเภท ขนมขบเคี้ยว ลูกอม และสินค้าหมุนเวียนไว (FAST MOVING CONSUMER GOODS – FMCG) แต่ไม่ค่อยเหมาะกับสินค้าประเภทจัดเก็บในอุณหภูมิเย็นและเย็นจัด เนื่องจากตัว Film มีคุณสมบัติใส กรอบ ซึ่งอาจจะทำให้บรรจุภัณฑ์ที่ถูกจัดเก็บในสภาวะเย็นและเย็นจัดแตกได้
เลือก Film ให้เหมาะ พิจารณาดังนี้
เมื่อคุณผู้อ่านได้อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว ทาง Easy Pack หวังว่าคุณผู้อ่านจะสามารถเลือก Film ที่เหมาะสมกับการใช้งานของผลิตภัณฑ์ของท่านได้บ้างแล้ว ท่านอาจจะใช้ Film 1 หรือ 2 หรือ 3 ชั้นในการทางซอง ขึ้นอยู่กับ Function ที่ท่านต้องการ Easy Pack ฝาก Tips ในการตัดสินใจง่ายๆ ในการเลือก Film ทำซองดังต่อไปนี้
1. อายุจัดเก็บ – น้อยกว่า 4 เดือน / 4-6 เดือน / 6-12 เดือน
2. คุณสมบัติสินค้า – ของแข็ง / ของเหลว / ผง / กรด-ด่าง
3. วิธีการจัดเก็บ – อุณหภูมิห้อง / แช่เย็น / แช่แข็ง / อุณหภูมิร้อน
หากคุณผู้อ่านไม่สามารถตัดสินใจได้ ติดต่อสอบถามทีมงาน Easy Pack ได้เสมอ เพื่อแนะนำ Spec ซองให้เหมาะกับสินค้าของท่านที่สุด




